ยาธาตุผสมอบเชยตรา ชัญญธรเป็นยาน้ำที่ผลิตจากสมุนไพร 100% จากสูตรตำรับโบราณใช้รักษาอาการ

=> ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย
=> อาหารเป็นพิษ
=> โรคกระเพาะอาหาร กระเพาะเป็นแผล ลำไส้อักเสบ
=> โรคกรดไหลย้อน
=> รวมถึงโรคลำไส้แปรปรวน IBS
หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือโรคที่เกี่ยวกับระบบการย่อยอาหารและระบบทางเดินอาหารทั้งหมด

ยาของเรามีความปลอดภัยผ่านมาตราฐาน อย. มีเลขทะเบียนยา
ไม่มีสเตียรอยด์
ไม่มีสารกันบูด
ปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำตาล
สามารถเก็บรักษาได้ 1 ปีครึ่ง โดยไม่ต้องใส่ตู้เย็น ไม่ควรเก็บในที่ร้อน
ยาหนึ่งขวดมีปริมาตร 240 cc

ในกล่องยาที่คนไข้ซื้อไปจะมีถ้วยตวงยา 30 cc และวิธีการทานยาแนบไป ในกล่องยา
ถ้าไม่อ่านให้เข้าใจและทำตาม. ทานยาจะไม่หาย ยาช่วยได้แค่บรรเทา

วิธีการทานยาที่ถูกต้องและให้ได้ผลการรักษาไว

ผู้ใหญ่ (คนไข้อายุ 12 ปีขึ้นไป)
ทานยาหลังอาหารทุกมื้อและต้องทาน 30 cc (1 ถ้วยตวง) หลังทานอาหารเสร็จ 5 นาที และทานซ้ำทุกครั้ง เมื่อมีอาการ ถ้าต้องการดื่มน้ำให้ทานยาผ่านไปแล้วประมาณ 15-20 นาที ไม่ทานยาร่วมกับยาแผนปัจจุบัน ที่รักษาโรคกรดไหลย้อน ยารักษากระเพาะ ยาฆ่าเชื้อในกระเพาะ ยาช่วยย่อย ยาลดกรดทุกชนิด รวมถึงยาขมิ้นชันและยาสมุนไพรต่างๆ ที่เขาว่าใช้รักษากรดไหลย้อน เช่น ยาธรณีสัณฑฆาต ยาประสะเจตพังคี ผงกล้วยดิบ ผงถ่าน เปล้าตะวัน เนื่องจากหลักการทำงานของยาแตกต่างกัน ถ้าทานร่วมกันจะทำให้อาการยิ่งแย่ลงหรือหนักขึ้นได้
ยาธาตุสมุนไพรของเราจะแตกต่างจากยาเคมีแผนปัจจุบันและยาธาตุชนิดอื่นๆในตลาด ซึ่งอาจมีส่วนผสมของเคมีและวัตถุกันเสีย
ยาเคมีแผนปัจจุบันจะทำงานโดยการกดอาการของโรคที่เป็นไว้ ทำให้อาการดีขึ้นชั่วคราวพอหมดฤทธิ์ยา อาการก็จะกลับเป็นเหมือนเดิมและถ้าทานยาต่อเนื่องนานๆ จะมีผลให้ดื้อยาและยังส่งผลเสียต่อมาคือยาเคมีจะไปสะสมที่ตับและไต ไม่สามารถขับทิ้งออกจากร่างกายได้ดีเหมือนยาสมุนไพรเรา

ระยะแรก (ประมาณ 1 สัปดาห์) คนไข้ที่มีอาการมากๆ หรืออาการรุนแรงรวมถึงคนไข้ที่เคยฉีดยามา อาจจะต้องทานยามากถึงวันละ 1-2 ขวด ขึ้นอยู่กับอาการมากน้อย หลังจากอาการดีขึ้นแล้ว จึงปรับมาทานเฉพาะหลังอาหารอย่างเดียวได้
คนไข้ที่มีอาการเรื้อรังรุนแรงหรือเคยฉีดยามาแล้ว หมอจะต้องให้คนไข้สั่งยาก่อนอาหารไปทานด้วย เพื่อจะได้ช่วยให้อาการหายไวขึ้น
โดยปกติของการรักษาโรคระบบทางเดินอาหารและระบบการย่อยจะใช้เวลาในการักษาต่อเนื่องประมาณ 3 เดือน เพื่อให้อาการหายเป็นปกติดี และร่างกายจึงจะปรับคืนสู่ภาวะปกติ

คนไข้บางรายทานยาเพียง 1 ขวด ก็รู้สึกว่าอาการหายดีแล้ว แต่เป็นการเข้าใจผิด ยาเพียงไปช่วยบรรเทาอาการเท่านั้น
บางรายอาการดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ บางรายใช้เวลา 1-2 เดือน เนื่องจากการตอบสนองต่อยาสมุนไพร เร็วช้าไม่เท่ากันในแต่ละบุคคล

เป็นเรื่องปกติ จากประสบการณ์ที่หมอรักษาคนไข้มา
คนไข้ที่หยุดทานยาแผนปัจจุบันที่คอยกดอาการไว้ และมาทานยาเราตามที่หมอแนะนำ อาการของกรดไหลย้อนก็จะอาจมาเป็นปกติทุกอย่าง ไม่ต้องตกใจกังวลให้ทานยาตามที่หมอบอก อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น ที่สำคัญคือต้องทานอาหารและเครื่องดื่มตามที่หมอแนะนำ

สาเหตุที่ยาเราไม่สามารถช่วยคนไข้ได้ สาเหตุหลักๆ เกิดจาก 2 ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งสาเหตุมาจากตัวคนไข้เอง

1.ความเครียดความกังวล แพนิค วิตกจริตเกินเหตุ ยาอะไรก็ช่วยไม่ได้ ต่อให้ยาราคาเป็นแสนเป็นล้านก็ช่วยไม่ได้
2.พฤติกรรมก่อเกิดโรค จากการทานอาหารและเครื่องดื่มตามที่หมอแนะนำ ดื้อต่อการแนะนำ ทนการรบเร้าจากอาหารที่ทานไม่ได้ (ตะกละ) ต้องหยุดพฤติกรรมการทานอาหารแล้วเข้านอนเลย ถ้าใครยังทำแบบนี้อยู่ ยังไงก็ไม่หาย ยาอะไรก็ช่วยไม่ได้ครับ บางคนอาจคิดว่าไม่เห็นจะเป็นอย่างที่บอก สุดท้ายปลายทางต้องเป็นโรคกรดไหลย้อนอย่างแน่นอนครับ ถ้าจะเข้านอน ให้ทำหลังทานอาหารอย่างน้อย 3 ชั่วโมงถึงจะล้มตัวลงนอนได้. ไม่ทานข้าวคำ แล้วดื่มน้ำคำ เพราะทำให้อาหารไม่ย่อย กรดจะมากขึ้นตาม เมื่อทานอาหารเสร็จ ไม่ดื่มน้ำตามในปริมาณมากๆ ทันที ให้ดื่มเพียงเล็กน้อยพอล้างปากก็พอ คนไข้ต้องดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตร ทุกวัน เพื่อไม่ให้เกิดอาการท้องผูก คนไข้กรดไหลย้อนแทบทุกรายดื่มไม่ได้ เพราะท้องอืดอยู่ เมื่อสั่งยาธาตุไปทานแล้วท้องหายอืด ให้ดื่มน้ำให้ได้ปกติอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร และควรดื่มน้ำ 2 แก้ว ทุกเช้า จนเป็นนิสัย ควรดื่มเป็นนำ้อุ่นจะดีมาก เพื่อให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ เนื่องจากน้ำอุ่นจะทำให้อุจจาระนิ่มตัว และเพิ่มลมในลำไส้ช่วยให้ถ่ายง่าย